ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (สำนักงาน กขค.) มีภารกิจสำคัญในการกำหนดกรอบกติกาและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมตลอดจนเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านกฎหมายการแข่งขันทางการค้าแก่ผู้ประกอบธุรกิจและทุกภาคส่วนเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
เลขาธิการฯ กขค. กล่าวว่า บทบาทของ สำนักงาน กขค. คือ สนับสนุนความร่วมมือและองค์ความรู้ต่าง ๆ ในการพัฒนานโยบายการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่าง ๆ ในการเผยแพร่ข้อมูล การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรมของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แลกเปลี่ยนข้อมูลของเอสเอ็มอีเพื่อประโยชน์ในการจัดทำรายงานสถานการณ์ด้านการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมของเอสเอ็มอี รวมทั้งประสานการดำเนินงานการส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าของเอสเอ็มอีในทุกมิติ
“สำหรับพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)ในครั้งนี้ จะเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่นำไปสู่การบูรณาการการทำงานร่วมกัน ระหว่างสำนักงาน กขค. และ สสว.โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตระหนักและเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการบังคับใช้กฎหมาย
การแข่งขันทางการค้า ตลอดจนส่งเสริมให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจ ป้องกันการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจ เพิ่มศักยภาพ และความสามารถทางการแข่งขันให้กับประเทศ โดยอยู่ภายใต้กฎกติกาของการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและพัฒนาสู่มาตรฐานสากล ยิ่งขึ้นต่อไป” เลขาธิการฯ กขค. กล่าว
รองศาสตราจารย์วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า สสว. มีภารกิจหลักในการบูรณาการและผลักดันการส่งเสริมเอสเอ็มอีให้สามารถเติบโตและแข่งขันในระดับสากล โดยการลงนามความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานคือ สำนักงาน กขค. และ สสว. ให้ความสำคัญในการประสานความร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้การปฏิบัติงานของสำนักงาน กขค. และ สสว. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อเอสเอ็มอีในภาพรวม
ผอ. สสว. เผยอีกว่า ขอบเขตความร่วมมือของ สสว. ได้แก่ ความร่วมมือในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเอสเอ็มอี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนานโยบายการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรมรวมถึงสนับสนุนการเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีและเป็นธรรมของเอสเอ็มอี ผ่านช่องทางต่าง ๆ
สำหรับ MOU ฉบับนี้ มีระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันลงนาม โดยมีขอบเขตความร่วมมือดังนี้
1. เพื่อบูรณาการและประสานการทำงานในด้านการขับเคลื่อนการพัฒนานโยบายการแข่งขันทางการค้า ให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมต่อเอสเอ็มอีพร้อมทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศการแข่งขันทางการค้า ที่มีการกำกับดูแลครอบคลุมทุกมิติ
2. เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพและยกระดับความสามารถของSMEs ผ่านการพัฒนา องค์ความรู้ด้านการแข่งขันทางการค้าในบริบทที่สำคัญต่อเอสเอ็มอีให้มีความรู้ความเข้าใจและประกอบธุรกิจ อยู่บนพื้นฐานของการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรม
3. เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการกำกับ ติดตาม สถานการณ์ การแข่งขัน
ทางการค้าของเอสเอ็มอีโดยรวม ตลอดจนเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายที่เหมาะสมและคำนึงถึงบริบทการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรม รวมทั้งทราบถึงช่องทางการร้องเรียนในกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ
นอกจากกิจกรรมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมไฮไลท์ที่สำคัญได้แก่ การกล่าวปาถกฐา หัวข้อ “กฎหมายการแข่งขันทางการค้าที่ผู้ประกอบธุรกิจต้องรู้!!” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.ปัทมา เธียรวิศิษฎ์สกุล กรรมการการแข่งขันทางการค้า และกิจกรรมการเสวนา หัวข้อ “อนาคต SMEs ไทย
กับการใช้กฎหมายการแข่งขันฯ ให้เป็นประโยชน์” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย รองศาสตราจารย์ วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สสว. ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการฯ กขค. นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในงานมากกว่า 130 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดตามการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กเพจ (Facebook Live) ของสำนักงาน กขค. อีกช่องทางหนึ่งด้วย