นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า นโยบายสำคัญ ในปี 2565 ที่ สสว. เร่งดำเนินการเพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการ SME คือการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการขยายโอกาสทางการตลาด เพื่อช่วยพลิกฟื้นธุรกิจของผู้ประกอบการให้เดินหน้าต่อได้ รวมถึงสร้าง SME รายใหม่ในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก และสนับสนุนการพัฒนาสินค้า SME ให้ได้รับความเชื่อมั่นและยอมรับจากกลุ่มผู้บริโภค โดย สสว. เตรียมเดินหน้าในการใช้ตราสัญลักษณ์ “SME ชัวร์” ซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรค้าปลีกรายใหญ่ ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ
ผอ. สสว. กล่าวต่อว่า กิจกรรมความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักที่จะร่วมมือกันดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่เป็นสมาชิกของ สสว. และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการต่าง ๆ ของ สสว. เพื่อเป็นการสนับสนุน เสริมสร้างขีดความสามารถ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่เอสเอ็มอี ให้คำปรึกษาแนะนำในการดำเนินธุรกิจในรูปแบบต่างๆ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้า การจัดหาสิทธิประโยชน์สนับสนุนการดำเนินธุรกิจแก่ SME และวิสาหกิจรายย่อย รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมและเพิ่มยอดขายในส่วนพื้นที่ของจัดงาน เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าให้มาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
โดยตระหนักถึง SME รายย่อย กว่า 100 ราย ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไป เพื่อรักษาการจ้างงาน เอื้อให้ธุรกิจฟื้นกิจการอย่างรวดเร็ว และไม่กระทบศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว ภายใต้ความร่วมมือการให้สิทธิประโยชน์ด้วยการติดตราสัญลักษณ์ “SME ชัวร์” ที่ชั้นวางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองความเป็น SME จาก สสว. ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ รวมถึงผู้ที่วางขายสินค้าในห้างค้าปลีกอยู่แล้ว เพื่อจูงใจและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ทันทีว่าได้อุดหนุนสินค้าของ SME ไทย ช่วยเพิ่มจำนวน SME รายใหม่ในธุรกิจค้าปลีกให้มากขึ้น มีช่องทางการจัดจำหน่ายและยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วน SME ที่ขายสินค้าในห้างค้าปลีกอยู่แล้ว ก็มีโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น กลุ่มตลาด CLMV ตลาดประเทศจีน และกลุ่มประเทศต่างๆ อีกด้วย
“การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ คือ สิทธิประโยชน์ที่ สสว. ร่วมกับผู้ประกอบการค้าปลีกที่ติดตราสัญลักษณ์ “SME ชัวร์” ที่ชั้นวางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองความเป็นเอสเอ็มอีจาก สสว. ครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการรายใหม่ๆ รวมถึงผู้ที่วางขายสินค้าในห้างค้าปลีกอยู่แล้ว เพื่อจูงใจและสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้ทันทีว่าได้อุดหนุนสินค้าของเอสเอ็มอีไทย ที่สำคัญ เดอะ มอลล์ ได้มอบสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกอบการที่ลงทะเบียน SME ONE ID โดยให้เครดิต เทอม ดังนี้คือ ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา ให้เครดิต เทอม 15 วัน ส่วนนิติบุคคล ให้เครดิต เทอม 30 วัน
นอกจากนั้น สสว. ยังได้วางแผนต่อยอดความช่วยเหลือ โดยจะนำเสนอมาตรการ “ช็อป SME มีคืน” ต่อรัฐบาลภายในปีนี้ แนวคิดเบื้องต้นจะกำหนดให้ผู้ที่ซื้อสินค้า “SME ชัวร์” วงเงินไม่เกิน 10,000 บาท สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดและเตรียมประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะนำเสนอบอร์ดบริหาร สสว. และบอร์ดส่งเสริมสสว. ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป” นายวีระพงศ์กล่าว
นายศุภวุฒิ ไชยประสิทธิ์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริหารสินค้าซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กูร์เมต์ มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมในกลุ่ม เดอะมอลล์ กรุ๊ป ในฐานะองค์กรภาคเอกชนที่ดำเนินธุรกิจรีเทลด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมเคียงข้างคนไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสร้าง SME Ecosystem หรือระบบนิเวศในการส่งเสริมและพัฒนา SME ที่ช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการและเกษตรกรให้เติบโตได้เต็มศักยภาพอย่างยั่งยืน รวมถึงการเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่สำคัญแก่เกษตรกรไทย และชุมชนทั่วประเทศ พร้อมทั้งการถ่ายทอดองค์ความรู้ ทักษะ และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการยกระดับมาตรฐานสินค้า SME และสินค้าท้องถิ่น
ให้ตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการแข่งขันในเวทีโลก เพื่อตอกย้ำความเป็น WORLD CLASS GOURMET DESTINATION ที่คัดสรรเฉพาะผลิตภัณฑ์คุณภาพ ของดี ของอร่อย ส่งตรงถึงลูกค้า และด้วยเจตนารมณ์ที่สอดคล้องกัน กูร์เมต์ มาร์เก็ต โดย บริษัท เดอะมอลล์ กลุ๊ป จำกัด จึงได้จับมือกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ SME พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs โดยคาดว่าโครงการนี้จะสามารถช่วยต่อยอดให้ SME พลิกฟื้นธุรกิจ สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสครั้งสำคัญในการเปิดตลาดและแสดงศักยภาพผลิตภัณฑ์ของไทยออกสู่สายตาชาวต่างชาติ
ทั้งนี้ ได้มีการจัดแสดงและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการ SME ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ “SME ชัวร์” รวมกว่า 1,000 รายการ อาทิ แม่แป้นตากใบ ปลากุเลาทอง คัดสรรปลากุเลาสดโดยตรงจากชาวประมง, วิสาหกิจชุมชน พิลาฟาร์มสตูดิโอ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรมืออาชีพและเกษตรกรรุ่นใหม่ในจังหวัดเพชรบูรณ์, ฮิลไทรบ์ออร์แกนิค ไข่ไก่ฮิลไทรบ์ออร์แกนิค จากแม่ไก่ที่เลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติโดยชาวเขา หมู่บ้านห้วยน้ำเย็น ดอยวาวี จ.เชียงราย, แม่ศจี ลูกชิ้นปลากราย “แม่ศจี” หนึ่งในสุดยอดเมนูอาหารแนะนำของเมืองปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์, อรักษ เชียงใหม่ ชาเอิร์ลเกรย์ กลิ่นหอมโดดเด่นจากเบอร์กาม็อตออยล์บริสุทธิ์, ถั่วคุณลุง เสือเคี้ยวนัว ถั่วลายเสือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น GI จังหวัดแม่ฮ่องสอน, Much แมคคาเดเมีย ปลูกในสวนร่มเกล้าบนยอดดอย อำเภอพบพระ จังหวัดตาก, ไร่ทับทิมสยาม กล้วยตากของไร่ทับทิมสยาม
จังหวัดเพชรบุรี คัดสรรเฉพาะกล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง อบแห้งภายใต้โดม พลังงานแสงอาทิตย์, Gourmet Thai ข้าวตังหน้าหมูหยอง ข้าวหอมมะลิทอดกรอบ จากกลุ่มแม่บ้าน จังหวัดอ่างทอง และ ข้าวแต๋นทองอำไพ ข้าวแต๋นน้ำแตงโม ต้นตำรับข้าวแต๋นลำปาง OTOP คัดสรรวัตถุดิบทางการเกษตรของชุมชนท้องถิ่น ข้าวเหนียวคลุกเคล้าน้ำแตงโมหอมหวาน และสินค้าอื่นๆ อีกหลายรายการ ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม – 7 กันยายน 2565 ที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ชั้น G สาขาพารากอน