วันที่ 31 มีนาคม 2568 – เวลา 13.30 น. ณ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) สำนักงานจตุจักร กรุงเทพฯ รศ.ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปารเมศ กำแหงฤทธิรงค์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายชาญณรงค์ ไวยพจน์ เลขาธิการสมาคมวิศวกรรมความปลอดภัย นายอาจอารมณ์ พงษ์มนตรี สมาคมวิศวกรรมความปลอดภัย พร้อมทีมวิศวกรอาสารวม 6 ท่าน ร่วมกันตรวจสอบสภาพความเสียหายของอาคารเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย ปปว.1/1 หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
การตรวจสอบครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้แทนสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการใช้ประโยชน์จากนิวเคลียร์ในประเทศไทย ร่วมสังเกตการณ์ การตรวจครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่โครงสร้างหลัก การสำรวจด้านความมั่นคง และความเสียหาย ตามเกณฑ์/มาตรฐาน/วิธีปฏิบัติ/หลักทางวิศวกรรม และอื่นๆ ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบพบว่าอาคารอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีรอยแตกร้าว หรือความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของโครงสร้างและระบบความปลอดภัยของเครื่องปฏิกรณ์
หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจอาคาร รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ขนาด 7.7 แมกนิจูดที่เมียนมา และรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ในหลายที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร หลายคนคงวิตกกังวลว่าแล้วเครื่องปฏิกรณ์ที่ตั้งอยู่ที่จตุจักร จะเป็นอย่างไร เกิดความเสียหายที่ส่งผลกระทบกับประชาชนหรือไม่ ในเบื้องต้น ณ วันเกิดเหตุทีมงานของศูนย์เครื่องปฏิกรณ์ได้รายงานให้ทราบว่า เหตุแผ่นดินไหวไม่ส่งผลต่อการเดินเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นปรกติ แต่เพื่อความมั่นใจ วันนี้ สทน.จึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาร่วมตรวจสอบอีกครั้ง
“จากการตรวจสอบอย่างละเอียดโดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงาน เราขอยืนยันว่าอาคารเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู ปปว.1/1 ไม่มีความเสียหายใด ๆ อันจะส่งผลต่อความปลอดภัยของบุคลากรและการดำเนินงานด้านวิจัย เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยสูงสุด และมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ขอให้ประชาชนและผู้เกี่ยวข้องมั่นใจในความแข็งแรงของโครงสร้างและมาตรฐานความปลอดภัย และวางใจว่าอาคารและระบบความปลอดภัยทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด และสามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัย”
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันฯ ยังได้กล่าวขอบคุณคณะผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สมาคมวิศวกรรมความปลอดภัย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบครั้งนี้ พร้อมยืนยันว่า สถาบันฯ จะดำเนินการตรวจสอบเชิงป้องกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าอาคารเครื่องปฏิกรณ์ยังคงมีความปลอดภัยสูงสุด ทั้งต่อผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนทั่วไป
ในส่วนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของทางสถาบันฯ ได้แก่ เครื่องโทคาแมค เครื่องฉายรังสีอิเล็กตรอนบีม สำหรับฉายรังสีอัญมณี ซึ่งตั้งอยู่ที่ สทน.สำนักงานใหญ่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก รวมถึงเครื่องฉายรังสีแกมมา อิเล็กตรอนบีม และเอกซเรย์ ซึ่งใช้สำหรับการฉายรังสีอาหาร ผลิตผลทางการเกษตร และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่ติดตั้งอยู่ที่ศูนย์ฉายรังสี คลอง 5 เทคโนธานี จ.ปทุมธานี ทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเครื่องมือของ สทน. ได้ตรวจสอบแล้วว่าอุปกรณ์ข้างต้นอยู่ในภาวะปกติ ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวแต่อย่างใด ทั้งนี้ยังได้วัดปริมาณรังสีโดยรอบพื้นที่ตั้งของเครื่องมือทั้ง 3 แห่ง ผลการวัดปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติ (Background Level) ซึ่งการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ทางสถาบันฯ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพื่อให้การปฏิบัติงานสอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับโลก
