ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ หรือ CI ผู้จัดงานคอนเสิร์ต “เฉลียง Rare Item RESTAGE” พร้อมด้วย ศิลปินวงเฉลียง เดินทางมอบเงินบริจาคร่วมสมทบกองทุนกายอุปกรณ์ จำนวน 1,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่ด้อยโอกาสให้ได้รับอุปกรณ์และการรักษาที่ดี โดยมี ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และ รศ.พญ.กุลภา ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร เป็นผู้รับมอบ
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 คุณเทพิน อริยปิติพันธ์ ผู้บริหารบริษัท ครีเอท อินเทลลิเจ้นซ์ จำกัด นำทีมเดินทางมอบเงินรายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการจัดคอนเสิร์ตรอบการกุศล “เฉลียง Rare Item RESTAGE” เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ที่ผ่านมา ร่วมสมทบกองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการโรงพยาบาลศิริราช โดยมีศิลปินวงเฉลียง คุณภูษิต ไล้ทอง (แต๋ง), คุณวัชระ ปานเอี่ยม (เจี๊ยบ) และ คุณเกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ (เกี๊ยง) ร่วมเดินทางมอบเงินบริจาคในครั้งนี้ด้วย เดิมทีการจัดคอนเสิร์ต“เฉลียง Rare Item RESTAGE” จะจัดขึ้นเพียง 2 รอบ 2 วัน คือในวันเสาร์ที่ 9 และวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2566 เพื่อมอบบทเพลงที่ช่วยเติมเต็มความสุข มอบความประทับใจ ให้กับผู้เข้าร่วมงาน แต่หลังจากเมื่อทราบถึงปัญหาพันธกิจของโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร โดยโรงพยาบาลศิริราชต้องแบกรับค่าใช้จ่าย อีกทั้งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกิดวิกฤตโควิด-19 กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร ขาดสภาพคล่องในการดำเนินงาน และการผลิตนักศึกษากายอุปกรณ์หนึ่งคนต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่าค่าเทอมหลายเท่าตัว อีกทั้งจำเป็นต้องใช้ส่วนประกอบ อุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์ที่ผลิตและนำเข้าจากต่างประเทศ ต้องมีคุณภาพดีเหมาะสมกับผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงคนปกติ ทางโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธรจึงต้องรับภาระค่าใช้จ่ายส่วนเกินมาโดยตลอด ทางทีมเฉลียงจึงได้มีการเพิ่มรอบในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 เป็นรอบการกุศล เพื่อนำรายได้มาสมทบทุน ช่วยเหลือผู้พิการที่ด้อยโอกาส
จากการบริจาคในครั้งนี้ทีมเฉลียงหวังว่าจะสามารถนำรายได้จากการจำหน่ายบัตรมาร่วมสมทบทุนมอบให้กับ กองทุนกายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ พร้อมสนับสนุนสร้างนักกายอุปกรณ์ เสริมภารกิจช่วยผู้พิการที่ยากไร้และด้อยโอกาสให้ได้รับอุปกรณ์และการรักษาที่ดี สามารถกลับมามีคุณภาพชีวิตใกล้เคียงคนปกติได้ และยกระดับมาตรฐานการศึกษาและงานบริการกายอุปกรณ์ของประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลต่อไป