โตชิบา ไทยแลนด์ นำเข้า Comfee’ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมจากยุโรปและอเมริกา เน้นทำตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ประเดิมสินค้ากลุ่มแรกด้วยเครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมเทคโนโลยี IoT
มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูงมาก แม้แต่ในช่วงโควิด-19 แต่ละแบรนด์ก็ยังมีการออกสินค้าใหม่ที่มีการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้บริโภค และเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด โตชิบา ไทยแลนด์จึงได้นำแบรนด์ Comfee’ (คอมฟี) ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา รวม 26 ประเทศ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดย
แบรนด์ Comfee’ มีความโดดเด่น ทั้งในด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยและดีไซน์ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ มีไลน์สินค้าครบครัน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น ไมโครเวฟ เครื่องปั่น เตาอบ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้กดน้ำ เป็นต้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรับอากาศ Comfee’ เคยได้รับรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศเยอรมนีมาแล้ว”
“การนำ Comfee’ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ โตชิบา ไทยแลนด์จะคัดเลือกกลุ่มสินค้าที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งรับผิดชอบในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด ไปจนถึงการจัดจำหน่าย การกระจายสินค้าไปตามช่องทางต่างๆ ทั่วประเทศ และการให้บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งพร้อมด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในประเทศไทยมานานกว่า 53 ปี บริษัทฯ มั่นใจว่าแบรนด์ Comfee’ จะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยได้ในเวลาไม่นาน นอกจากนี้ การดึงแบรนด์ Comfee’ ที่มีภาพลักษณ์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าของคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกับโตชิบา ไทยแลนด์ ยังช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ในการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่เป็น Young Generation และ Fashionable ได้มากยิ่งขึ้น”
“สำหรับในปี 2565 นี้ โตชิบา ไทยแลนด์จะเน้นทำตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ Comfee’ ก่อน เพราะตลาดเครื่องปรับอากาศเป็นตลาดหลักในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มีสัดส่วนการตลาดประมาณ 35% หรือมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยในช่วงปีแรก บริษัทมีแผนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ 2 ซีรีส์ ได้แก่ C-Flow Series และ Penrose Series รวม 6 รุ่น โดยเครื่องปรับอากาศทั้งหมด จะเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ที่มาพร้อมระบบ IoT สามารถสั่งงานผ่านมือถือ ควบคุมการเปิดปิด และการทำงานได้สะดวก ทุกที่ทุกเวลา ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย ในราคาที่จับต้องได้”
“สำหรับกลยุทธ์และทิศทางการตลาดแบรนด์ Comfee’ ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าขยายไลน์อัพสินค้า กว่า 30 รุ่น ทั้งสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และสินค้าชิ้นเล็ก เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ ตั้งเป้าเติบโตโดยประมาณการยอดขายกว่า 500 ล้านบาทต่อปี และมีช่องทางการจัดจำหน่ายมากกว่า 300 แห่ง ทั่วประเทศ” ส่วนแผนการเปิดตัวสินค้าในปี 2566 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวสินค้ามากขึ้น จากเดิมที่มีเครื่องปรับอากาศจะมีสินค้ากลุ่มตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้กดน้ำ และหม้อทอด ที่จะเริ่มทยอยจำหน่ายกลางปีเป็นต้นไป
นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับแนวทางในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ และผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ Comfee’ บริษัทฯ จะเน้นการสร้างการมองเห็นของแบรนด์ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ การทำกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานจริง ณ จุดขาย การทำโรดโชว์ตามหัวเมืองต่างๆ การใช้สื่อนอกบ้าน เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำ มากไปกว่านั้น เรามุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อดิจิทัลและโซเชียล รวมไปถึงการใช้ KOLs มารีวิว และแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย การทำมาร์เก็ตติ้งแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขาย และที่สำคัญ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับพนักงานขาย และช่างติดตั้ง รวมถึงศูนย์บริการเป็นอย่างมาก จึงได้จัดอบรมเจ้าหน้าที่ รวมมากกว่า 1,600 คน ทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจ และทดลองใช้ ติดตั้ง ซ่อมผลิตภัณฑ์จริง เพื่อให้คุ้นเคย และสามารถให้คำปรึกษากับลูกค้าได้เป็นอย่างดี”
ในส่วนของบริการหลังการขาย ลูกค้าสามารถติดต่อบริษัท ด้วยช่องทาง Comfee’ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ เฟซบุ๊ก ไลน์ และใช้บริการที่ศูนย์บริการของโตชิบา ไทยแลนด์ ตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการที่ได้รับการแต่งตั้ง ที่พร้อมให้บริการกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ
นายแอนดี้ หวง ผู้จัดการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “สำหรับแผนการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ Comfee’ ในปีนี้ เราเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ซีรีส์ คือ C-FLOW Series ซึ่งมีด้วยกัน 4 ขนาด ได้แก่ 9,000 12,000 18,000 และ 24,000 BTU และอีกรุ่นคือ PenRose Series มีด้วยกัน 2 ขนาด ได้แก่ 9,000 และ 12,000 BTU ซึ่งทั้ง 6 รุ่นเป็นเครื่องระบบอินเวอร์เตอร์ที่รวมฟังก์ชันการใช้งานไว้อย่างครบครัน ที่สำคัญมีการนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้เพิ่มความสะดวกสบายให้คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสั่งงาน ควบคุมการเปิดปิด หรือตั้งเวลาใช้งานเครื่องปรับอากาศได้ง่ายๆ จากทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน”
เครื่องปรับอากาศ Comfee’ มีจุดเด่นที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่คือ เย็นเร็ว ทนทาน ประหยัดไฟ ใส่ใจสุขภาพ และอำนวยความสะดวกให้ใช้งานได้ โดยสั่งการผ่านมือถือ ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่ครบครัน ในราคาที่จับต้องได้ บริษัทฯ เชื่อว่า เครื่องปรับอากาศ Comfee’ จะเป็นเรือธงที่ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่น และสร้างยอดขายให้บริษัทฯ ได้ดี โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่จะมาถึง
ในส่วนของฟีเจอร์เด่นๆ ของเครื่องปรับอากาศ Comfee’ สามารถทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีเพิ่มอัตราเร่ง High-frequency Racer ที่ช่วยให้คอมเพรสเซอร์ทำงานในความถี่สูงสุดในระยะเวลาอันสั้น บานสวิงแบบใหม่ 180 องศา ปล่อยลมเย็นจากฝ้าถึงพื้นได้ ทำให้ลมเย็นทั่ว อีกทั้งมีระบบปล่อยลมอัจฉริยะ ปรับการส่งลมเย็น ให้ความรู้สึกเย็นสบายแบบนุ่มนวล ไม่มีลมแรงมาสัมผัสตัว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ทั้งยังสามารถเพิ่มความมั่นใจว่าลมเย็นที่ปล่อยออกมาสะอาดและสดชื่นบริสุทธิ์ เพราะใช้ระบบกรองฝุ่นด้วยแผ่นกรอง 2 ชั้น ช่วยกรองฝุ่นควันและเชื้อโรคขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งกว่านั้น เครื่องปรับอากาศทุกรุ่นยังมีฟังก์ชัน i-Clean ที่ช่วยทำความสะอาดเครื่องแบบขั้นสูง โดยช่วยชะล้างฝุ่น เชื้อรา คราบมัน และสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากคอยล์เย็น และช่วยเป่าไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็นจนแห้งสนิท เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและ เชื้อรา ช่วยให้ลมที่ออกมาไม่มีกลิ่นอับ
เครื่องปรับอากาศทุกรุ่นผลิตจากวัสดุที่ทนทาน มีการเคลือบ Golden Coating ที่คอยล์เย็นในทุกรุ่น ส่วนในรุ่น 24,000 BTU จะเคลือบทั้งคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ช่วยให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ทนทานต่อการกัดกร่อนทุกสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ ยังช่วยประหยัดพลังงานและทำงานเงียบไม่มีเสียงรบกวน เพราะใช้เทคโนโลยี E-MAX algorithm ที่จะคำนวณและควบคุมคอมเพรสเซอร์อย่างแม่นยำ ช่วยให้ทำงานได้อย่างเสถียรและมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียพลังงาน แต่ยังคงความเย็นได้สม่ำเสมอ
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ เป็นเพราะปัจจัยทางภาวะเศรษฐกิจที่มีทิศทางขยายตัวและภาคอสังหาฯ ที่กำลังฟื้นตัวกลับมา ในขณะที่สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ก็ให้ความสำคัญกับสุขภาพกันมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ปัญหาจากสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาฝุ่น PM2.5 หรือโรคระบาด ทั้งยังมีการพัฒนาให้ทันสมัย เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยการนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาใช้ นอกจากนี้ สภาพอากาศในประเทศก็มีแนวโน้มที่จะร้อนมากขึ้นและนานขึ้นในแต่ละปี ที่สำคัญการเกิดโควิด-19
ทำให้การอุปโภคบริโภคของผู้คนเปลี่ยนมาอยู่บนแพลทฟอร์มออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และตัดสินใจซื้อสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โตชิบา ไทยแลนด์เข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างดี จึงได้คัดสรรนวัตกรรมที่ทันสมัย ประหยัดพลังงาน ช่วยดูแลสุขภาพ ทั้งยังมีดีไซน์สวยงาม อย่าง Comfee’ มาช่วยยกระดับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่ ไม่เพียงเท่านั้น ลูกค้าสามารถสบายใจได้ในเรื่องบริการหลังการขาย เพราะรับประกันโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งหลังจากที่เปิดตัวแบรนด์ Comfee’ ในวันนี้แล้ว บริษัทฯ จะสร้างสรรค์แคมเปญดีๆ ออกมาให้เรื่อยๆ เพื่อทำให้แบรนด์ Comfee’ กลายเป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยและเป็นที่ต้อนรับของคนไทยทุกครอบครัว”