ตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศร้อง ครม. พิจารณาขยายเวลาปิดสถานบันเทิง โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่ชาวนักท่องเที่ยวต่างชาติ เชื่อมั่นเป็นหนทางเร่งด่วนแบบไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐในการแก้ปัญหาและกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสถานการณ์โควิด-19 มานานกว่าสองปี ทั้งยังส่งเสริมและฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยในระยะยาวให้แก่ปากท้องของคนไทยในหลายภาคส่วนอย่างกว้างขวาง ย้ำผู้ประกอบการทุกรายพร้อมให้การสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายกับภาครัฐอย่างเต็มที่ในทุกรูปแบบ
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร กล่าวว่า การเรียกร้องให้ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. จากเดิม 02.00 น. ซึ่งคาดว่านายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้านั้น เป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นการแข่งขันการทำธุรกิจไม่เฉพาะกรุงเทพมหานครหรือประเทศไทย แต่แข่งขันกับต่างประเทศด้วย เพราะประเทศกำลังต้องการเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีทั้งกลุ่มเป้าหมายด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวภาคกลางคืน โดยการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. จะช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ดึงนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่อยากจะเที่ยวกรุงเทพฯ ตามสถานที่เอนเตอร์เทนเมนท์มากขึ้น ระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมงสามารถเพิ่มรายได้ขึ้นอีก 20-30% โดยเห็นด้วยกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการฯ ที่จะนำร่องในบางพื้นที่ก่อน
“ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น.จะนำร่องในพื้นที่โซนนิ่ง อาทิ ถนนบางลาในภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย เมืองพัทยา พื้นที่ในกรุงเทพฯ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย และซอยพัฒน์พงษ์ ซึ่งผู้ประกอบการมีความพร้อมทุกด้าน ทั้งเรื่องมาตรการความปลอดภัย การทำโปรโมชั่นควบคู่การท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ห้องพัก ร้านอาหาร อยากให้รัฐบาลออกนโยบายช่วยผู้ประกอบการ ทำอย่างไรให้สามารถแข่งขันและเพิ่มรายได้ ไม่ใช่ออกกฎหมายมาจำกัดผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จากเวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. อยากให้อนุมัติ 24 ชั่วโมง ส่วนความกังวลหากมีการเปิดผับบาร์นานขึ้นจะทำให้คนดื่มเหล้าเพิ่มขึ้น และจะมีผลให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นนั้น อยากให้มองตามความเป็นจริงว่าถ้าจัดโซนนิ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่ก็สะดวกขึ้น ตั้งด่านตรงโซนนิ่งคนจะไม่กล้าขับรถมาเที่ยว ต้องใช้บริการรถแท็กซี่ปลอดภัยช่วยกระจายรายได้ให้กลุ่มอาชีพรถสาธารณะได้อีก นอกจากนี้กฎหมายเมาขับเข้มงวดอยู่แล้ว ปัจจุบันปรับหนักถึงขั้นติดคุก ถ้าทุกส่วนร่วมกันทำจริงจังทุกอย่างก็จะเกิดผลในเชิงบวกต่อประเทศได้” นายสง่ากล่าวย้ำ
นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิงหาดป่าตองได้เรียกร้องให้รัฐบาลขยายเวลาปิดสถานบันเทิง โดยที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือกับหน่วยงานภาครัฐหลายหน่วยงาน ทั้งทางจังหวัดและรัฐบาล โดยล่าสุดได้ไปยื่นหนังสือต่อนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในเรื่องของการแก้กฎหมาย แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจน ทั้งนี้เศรษฐกิจเมืองป่าตองเติบโตค่อนข้างรวดเร็วจากเมื่อสามสิบปีก่อน ทุกธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของที่นี่เชื่อมโยงกันเป็นลูกโซ่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถแท็กซี่ หรือร้านขายของที่ระลึก ถ้าธุรกิจสถานบันเทิงปิดตัวลงก็จะกระทบธุรกิจอื่นจนไม่สามารถไปต่อได้ เพราะหลักๆ แล้วนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ของป่าตองจะมาพักผ่อนตามชายหาดที่สวยงาม และแสงสียามราตรีที่เป็นจุดขาย เมื่อมาภูเก็ตแล้วก็ต้องมาป่าตอง สามารถสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้กับประเทศชาติในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก
“กฎหมายบังคับใช้การเปิดปิดสถานบันเทิงขณะนี้ ถ้าเป็นในเขตของนอกโซนนิ่งเปิดได้แค่เที่ยงคืน แต่เขตโซนนิ่งที่เราเรียกร้องให้มีการผ่อนปรนปิดตีสอง ซึ่งไม่เพียงพอกับบริบทหรือพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในพื้นที่ของหาดป่าตอง เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาจากยุโรป จะมีพฤติกรรมพักผ่อนตามชายหาดจนถึงเย็น ก่อนอาบน้ำไปกินข้าวดินเนอร์กว่าจะเข้ามาใช้สถานบริการก็ประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่มแล้ว แต่เราปิดตีสองจึงไม่ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ จึงอยากให้ทางรัฐบาลขยายเวลาเปิดบริการไปอีกสองชั่วโมงจากตีสองเป็นตีสี่ มีหลายคนถามว่าปิดตีสี่กระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ไหนผมบอกตรงๆ ว่ากระตุ้นขึ้นเยอะมาก ผู้ประกอบการร้านอาหาร รถแท็กซี่ และพ่อค้าแม่ค้าทั่วไปได้รับประโยชน์กันถ้วนหน้า ส่วนความกังวลว่าการขยายเวลา ทำให้การดื่มแอลกอฮอล์และอุบัติเหตุรถชนเพิ่มมากขึ้นนั้น ปัญหาเมาแล้วขับไม่ใช่ว่าอยู่ที่การยื่นขอขยายเวลา แต่ในความเป็นจริงคนเราดื่มแค่สิบนาทียี่สิบนาทีก็เมา เป็นเรื่องของคนที่ดื่มมากกว่า และเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ที่เราเรียกร้องขยายเวลา เฉพาะถนนบางลาเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวพักตามโรงแรมไม่ได้นำยานพาหนะมา หรือใช้บริการแท็กซี่ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนชาวต่างชาติ คนไทยค่อนข้างน้อยที่จะเข้ามาใช้บริการ เพราะฉะนั้นในเรื่องของเมาแล้วขับค่อนข้างที่จะน้อย ที่สำคัญเจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านเป่าแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำ คิดว่าในเรื่องของการเมาแล้วขับกับการเรียกร้องขยายเวลาเปิดสถานบริการไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน” นายวีรวิชญ์กล่าว
ด้าน นายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย ทางสมาคมฯ เห็นด้วยหากจะขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาเฟ่ต่าง ๆ จากตีสองเป็นตีสี่ เพราะจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะ สอดคล้องกับการรณรงค์ “เมาไม่ขับกลับแท๊กซี่” ซึ่งนับเป็นเรื่องดีปลอดภัยทั้งต่อตัวเองและต่อผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย ปัญหาอุบัติเหตุทางการจราจรก็จะน้อยลง
“ถ้าถามว่าแท็กซี่ รถโดยสารสาธารณะ ได้ประโยชน์ไหม ตอบว่าได้ประโยชน์แน่นอน ในช่วงโควิดระบาดพวกเราเรียนรู้ที่จะปรับตัวหาทางออกร่วมกันมาตลอด การพลิกวิกฤตเป็นโอกาสก็ทำมาแล้ว เมื่อสถานบริการต่างๆ ปิด คนใช้รถสาธารณะน้อยลง ทางสมาคมฯ ก็ทำเรื่องการรับ-ส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปยังศูนย์ฯ โดยทำฉากกั้นระหว่างคนขับกับผู้โดยสารที่เป็นผู้ป่วยให้สามารถขึ้นรถกับเราได้ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ติดเชื้อเนื่องจากรถ ambulance ไม่เพียงพอ หรือรถบริการอื่นๆ ราคาสูงกว่า ในตอนนี้หากมีนโยบายจากการท่องเที่ยวที่ให้ความสำคัญให้โอกาสกับคนที่ทำอาชีพเกี่ยวกับสถานบันเทิงหรือผับบาร์ต่าง ๆ เพื่อจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาถือว่าเป็นเรื่องดี ทางสมาคมฯ ยินดีจะสนับสนุนและทำตามกฎระเบียบทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนสามารถกลับมาทำมาหากินมีรายได้ตามปกติ” นายศดิศกล่าว
ขณะที่ นายเสน่ห์ สมศรี นายกสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 14.00-17.00 น. เพราะเป็นช่วงจำหน่ายที่ติดพันจากกลุ่มลูกค้าตอนเที่ยง ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่สงสัยว่าเราหยุดขายทำไม อีกอย่างในเมื่อตั้งใจเปิดประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจแต่มาจำกัดเวลาขายในช่วงบ่ายซึ่งไม่สอดคล้องกัน ส่วนประเด็นการขยายเวลาปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในโซนพิเศษ เป็นช่วงเวลาตี 4 อย่างเมืองพัทยา เกาะสมุย หาดป่าตอง ถนนข้าวสาร จุดใหญ่ๆ เมืองท่องเที่ยว ก็น่าจะทำได้และควรทำ เพราะเจอโควิดไป 2 ปีกว่า เดือดร้อนกันหมดและการเยียวยาก็น้อยมาก หากรัฐบาลประสงค์จะเปิดประเทศจริงๆ ในจุดนี้ควรจะสนับสนุนผู้ประกอบการให้เปิดได้จนถึงตี 4
“ถ้าในโซนพิเศษเปิดได้ถึงตี 4 จะมีประโยชน์มาก เพราะการจ้างงานก็จะมีมากขึ้น จากประสบการณ์คนที่เลิกงานประจำแล้วจะมาหารายได้เสริมทำเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่ไปต่างจังหวัดก็ต้องการที่ท่องเที่ยวสำหรับสังสรรค์ได้ยาวๆ ข้ามคืนได้ เพราะคนเหล่านี้จะอยู่กลางคืน ช่วงกลางวันเขาพักผ่อนกัน จะมีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ถูกปิดไปตั้งแต่โควิดรอบแรก ขณะนี้ก็เพิ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้นมา ยังต้องหาทางชดใช้หนี้สินเก่าที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ และเพิ่มโอกาสให้คนที่ต้องการหางานทำด้วย อยากให้รัฐบาลเห็นใจและสนับสนุนครับ” นายเสน่ห์กล่าวย้ำ