หากกล่าวถึงบัตรเครดิต บางคนก็อาจจะ กลัวการเป็นหนี้ หรือกลัวมือเติบ ใช้เงินเกินกำลัง แต่แท้จริงแล้ว บัตรเครดิตนี้ก็สามารถช่วยมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ท่านๆได้ ในหลายๆสถานการณ์ เพียงแต่ท่านต้องมีวินัยในการจัดการเงินในแต่เดือนให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย มิฉะนั้นจากรายจ่ายก็อาจจะถมจนเกิดหนี้ก้อนโตได้เช่นกัน ฉะน้ันการใช้จ่ายอย่างรอบครอบ และการมีวินัยในการใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
จากใจนักเดินทางคนหนึ่ง…การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด ถือเป็นสิ่งที่นอกจากจะช่วยแบ่งเบาการใช้เงินก้อนของเราแล้ว สิทธิประโยชน์ต่างๆที่ได้คืนจากบัตรเครดิตต่างๆ ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่เราล้วนคาดหวัง ดังข้างต้นที่กล่าวไปครับในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยครับ ว่าตัวเองก็ไม่พลาดที่จะถือ “บัตรเครดิตท่องเที่ยว” เพื่อสะสมคะแนนเพื่อสิทธิประโยชน์ต่างๆจากธนาคาร เพื่อใช้เป็นส่วนลด หรือซื้อแพคเกจทัวร์จากบริษัทชั้นนำ รวมไปถึงประกันการเดินทางต่างที่คุ้มครองสูงสุด 2แสนดอลลาห์สหรัฐ ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษๆ สำหรับลูกค้าคนพิเศษของผู้ที่ถือบัตรเครดิต ท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพนี่แหละครับ
อีกหนึ่งเอกสิทธิ์พิเศษที่วันนี้ทางเราจะพาทุกท่านไปสัมผัสของขวัญที่ทางธนาคารกรุงเทพได้มอบให้กับลูกค้าคนพิเศษ ผู้ที่ถือและมียอดใช้จ่ายตลอดปี ผ่านบัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ และทางทีมงานขออาสาพาทุกท่านร่วมเดินทางไปกับทริปพิเศษ สำหรับลูกค้าคนพิเศษของธนาคาร ในทริป “Once in a lifetime” ในทริปนี้จะพาทุกท่านร่วมเดินทางไปยัง เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยทางธนาคารกรุงเทพได้จัดเตรียมขบวนรถตู้ จะพาลูกค้าคนพิเศษไปมีประสบการณ์แบบขั้นสุด ที่เรียกได้ว่าจะเป็น Once in a lifetime การเดินทางดำเนินการภายใต้มาตรการการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด หากทุกท่านพร้อมแล้ว ขึ้นรถแล้วจอยไปพร้อมกับพวกเราได้เลยครับ
การเดินทางของเราเริ่มต้นจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี โดยมีผู้ใหญ่ใจดีจากทั้งธนาคารกรุงเทพ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา โดยสถานที่แรกที่เราจะมุ่งหน้าไปนั่นก็คือ โรงไฟฟ้าลำตะคอง ชลภาวัฒนา, ความพิเศษของโรงไฟฟ้าแห่งนี้คือ โรงไฟฟ้าใต้ดินแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ตัวอาคารโรงไฟฟ้าดังกล่าว ถูกสร้างอยู่ใต้ระดับผิวดินลึกกว่า 350 เมตร เลยทีเดียว ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่จะมีอ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยงสร้างแบบหินถมดาดด้วยยางมะตอย เพื่อป้องกันน้ำซึม เก็บกักน้ำได้ 10.3 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกหนึ่งโครงการของ กฟผ. ที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้ นั่นคือ การผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมลำตะคอง กฟผ. มุ่งมั่นที่จะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2547 – 2555 (PDP 2004) จากการเก็บสถิติความเร็วลมของ กฟผ. เพื่อตรวจวัดศักยภาพพลังงานลมสำหรับผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 พบว่า บริเวณอ่างพักน้ำตอนบนของโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา มีศักยภาพดีที่สุดแห่งหนึ่ง มีลมพัดถึง 2 ช่วง คือช่วงฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงปลายเดือนมีนาคม) และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม) มีความเร็วลมเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 5 – 6 เมตรต่อวินาที เหมาะสมที่จะพัฒนาสร้างกังหันลมเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้า นอกจากทุกท่านจะได้ความรู้จักผู้เชี่ยวชาญ และวิทยากรจาก กฟผ.แล้ว บนพื้นที่อันยิ่งใหญ่ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ยังมีกิจกรรมหลากหลายในทุกท่านได้ไปสัมผัส และเพลิดเพลินกับบรรยากาศเคล้าความรู้ อาทิ เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าใต้พิภพ ซึ่งถือเป็นหนึ่ง unseen ที่น้อยคนจะได้เห็น ภายในอุโมงค์ขนาดยักษ์ยังมีภาพ graffiti สวยๆ ในรูปแบบของภาพ 3มิติ ให้ทุกท่านสามารถถ่ายเก็บไว้เป็นที่ละลึกไว้ โดยบรรยากาศที่ทุกท่านเห็นกันเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม และความสุขของผู้ร่วมทริปทุกท่านเลยแหละครับ
อีกหนึ่ง unseen และเป็น ไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้คือ อ่างพักน้ำตอนบน ที่ตั้งอยู่บนเขาสูง ที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 180องศา รวมถึง ทุ่งกังหันลมขนาดยักษ์ ที่มีความสูงถึง 90เมตร
ความฟินยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อีกหนึ่งความสุดของทริปนี้คือ ทางธนาคารกรุงเทพจัดเตรียมรถสองแถวซึ่งเป็นของชุมชนแท้ๆ พาสมาชิกคนพิเศษไปยังจุดชมวิวเขายายเที่ยง เพื่อชมวิว ยิงหนักสติ๊กปลูกป่า และ dipกาแฟสดๆริมผา นอกจากเป็นการท่องเที่ยวที่สร้างความสุขแล้ว ยังช่วยเหลือชาวบ้าน รวมไปถึงการปลูกป่าสร้างประโยชน์ให้ชุมชนและส่วนรวมอีกด้วยล่ะครับ
เก็บความประทับใจ และความสุขจนจะมันเอ่อล้นอยู่ในหัวใจกันเรียบร้อย ก็เดินทางเข้าที่พัก Hotel La Casetta แห่ง Toscana Valley ที่พักสุดหรูแห่งหุบเขาทอสคาน่าที่ตั้งตระการตาในอ้อมกอดของหุบเขาน้อยใหญ่ บรรยากาศต้องอุทานว่า breathtaking มากๆ บอกได้คำเดียวว่า ดี!!!!!!
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าด้วยไอเย็นที่พัดปะทะร่างกาย ด้วยกาแฟอุ่นๆสักหนึ่งแก้ว เติมพลังกันที่ห้องอาหาร club lago ก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวกันในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยจุดแรกของวันนี้ ทางคณะจะพาทุกท่านไป Green me organic farm สายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ พลาดไม่ได้ พลาดไม่ได้อย่างไรพร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
ฟาร์มกรีนมี เป็นมากกว่าฟาร์มเกษตรอินทรีย์ แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบใหม่ที่ผสมผสานไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อันบรรเจิด สู่สถานที่ๆจะมอบประสบการณ์ชีวิต และรอยยิ้มผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย เริ่มจาก นั่งรถแทรคเตอร์รอบฟาร์ม ให้อาหารสัตว์ และเก็บผัก นอกจากนี้ กรีนมี ออร์แกนิค ฟาร์ม ยังได้การรับรองผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์โดย Organic Thailand ด้วยหมายเลข TAS 5189 นอกจากนี้เรายังได้รับมาตรฐาน “อ.ย.” ในส่วนของการผลิตสินค้าออร์แกนิคไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ออร์แกนิค, สินค้าแปรรูป Premium Homemade Grade เช่น น้ำผลไม้ออร์แกนิค, แยมโฮมเมด และ สินค้าแปรรูปอื่นๆ
มื้อกลางวัน ฝากท้องไว้กับ Midwinter
ตกบ่ายมุ่งหน้าสู่ Gran monte vineyard & winery เพื่อชมไร่องุ่นกว่า 100ไร่ พร้อม ทำ wine testing ไวน์ระดับพรีเมี่ยมฝีมือคนไทย พร้อมเยี่ยมชม winery เรียนรู้วิธีการทำไวน์ และสายพันธุ์ของวัตถุดิบต่างๆ และการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจนกลายมาเป็นสินค้าคนไทยที่สร้างความภูมิใจให้กับประเทศ
ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าปราศจากคำเชิญชวนจาก ธนาคารกรุงเทพ และขอบพระคุณสำหรับทริปดีๆแบบนี้จากการร่วมมือระหว่าง บัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหรับท่านที่พลาดกิจกรรมดีๆในครั้งนี้ไปแล้ว ไม่ต้องเสียใจนะครับ หยิบบัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพแล้วออกไปใช้จ่าย สนุกกับสิทธิพิเศษต่างๆที่ได้จากบัตร เพียงเท่านี้ท่านก็ได้มีสิทธิ์ลุ้นได้เป็นหนึ่งในผู้โชคดีแล้วครับ ขอให้ทุกท่านโชคดี และพบกันในการเดินทางครั้งต่อไปนะครับ 🙂
สำหรับท่านที่ยังไม่มีบัตรเครดิตท่องเที่ยว ธนาคารกรุงเทพ สามารถสมัครทางออนไลน์ได้ที่ https://www.bangkokbank.com/th-TH/Personal/Cards/Credit-Cards/Bangkok-Bank-Travel-Credit-Card หรือ ติดต่อธนาคารได้โดยตรงเลยครับ
