
วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้บริหารกองทุนยุติธรรม สำนักงานกองทุนยุติธรรม จัดงานแถลงข่าว ผลการดำเนินงานกองทุนยุติธรรม “10 ปี กองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและแผนการให้ความช่วยเหลือประชาชนของกองทุนยุติธรรม และสร้างการรับรู้ และความเข้าใจในภารกิจของกองทุนยุติธรรม ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทั่วถึง ผ่านสื่อมวลชนและหน่วยงานเครือข่ายต่าง ๆ โดยได้รับความสนใจเป็นอย่างดียิ่ง จากสื่อมวลชน และผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 300 คน ที่จะเป็นกระบอกเสียงสื่อสารภารกิจการอำนวยความยุติธรรม ของกระทรวงยุติธรรมให้เข้าถึงประชาชน

พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
โดยในช่วงหนึ่ง พลตำรวจโท รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึง การกำหนดนโยบายโดยมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือประชาชนตามภารกิจของกระทรวงยุติธรรม ที่สอดคล้องกับหลักการสำคัญในคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ซึ่งหนึ่งในหกนโยบายสำคัญที่มุ่งประสงค์ให้เป็นแนวทางการบริหารงานของกระทรวงยุติธรรม ได้แก่ การยกระดับการให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลดการละเมิดสิทธิมนุษยชน สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม และบูรณาการหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เน้นการทำงานเชิงรุกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการงานยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เป็นไปตามหลักการของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้รัฐต้องจัดระบบกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินสมควร พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมาย โดยเฉพาะแก่ผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอภาค


กองทุนยุติธรรมจึงมีบทบาทสำคัญในการสร้าง “สังคมยุติธรรม” และสร้าง “โอกาสแห่งความเท่าเทียม” ในการเข้าถึงกฎหมายและความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการให้เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชนผู้ที่มีปัญหาเดือดร้อน ไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างทนายความ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือของกองทุนยุติธรรม ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการช่วยเหลือในการดำเนินคดีเท่านั้น แต่เป็น “ผู้แทนความยุติธรรม” ที่คอยเคียงข้างประชาชนในทุกมิติ ผ่านภารกิจสำคัญ ทั้ง ๔ ภารกิจของกองทุนยุติธรรม ได้แก่ มิติต้นน้ำ คือ การสร้างความตระหนักรู้ โดยการสนับสนุนการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน มิติกลางน้ำ คือ การสร้างความสะดวกในการเข้าถึงความยุติธรรม โดยการช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินคดี และการขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา และ มิติปลายน้ำ คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยการช่วยเหลือชดเชยแก่ผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

ดังนั้น ความยุติธรรมจะเข้าถึงประชาชนได้ ต้องมีทั้ง “ระบบ” และ “บุคลากร” ที่เข้มแข็งควบคู่กัน การดำเนินงานของกองทุนยุติธรรมตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ได้รับคำขอความช่วยเหลือจากประชาชน ผู้ได้รับความเดือดร้อนในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม จำนวน 61,613 ราย คิดเป็นเงินช่วยเหลือจำนวนกว่า 2,242 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีงบประมาณ 2568 กองทุนยุติธรรมได้รับคำขอความช่วยเหลือจากประชาชน จำนวน 5,217 ราย เป็นเงินช่วยเหลือจำนวนกว่า 227 ล้านบาท เป็นการออกหนังสือรับรองของกองทุนยุติธรรมในภารกิจการขอปล่อยชั่วคราว มากถึง 316 ฉบับ คิดเป็นวงเงินประกันตัวเกือบหนึ่งร้อยล้านบาท และผลการดำเนินงานดังกล่าว ได้รับการประเมินความพึงพอใจ จากประชาชนผู้รับบริการสูงถึง ร้อยละ 99.18 ผลลัพธ์เหล่านี้ ไม่เพียงช่วยให้ประชาชนจำนวนมาก ได้รับความยุติธรรม แต่ยังเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบยุติธรรมของประเทศ ว่า “กองทุนยุติธรรม เป็นที่พึ่งของประชาชนได้”

สำหรับก้าวต่อไปของกองทุนยุติธรรมในปีที่ 11 ได้กำหนดแผนการดำเนินงาน ภายใต้กรอบแนวคิด “กองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน” โดยยกระดับการดำเนินงานเชิงรุก นำความยุติธรรมเข้าถึงประชาชน สร้างความสะดวก ลดขั้นตอน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความตระหนักรู้ ตามแนวคิด J F O

ซึ่งได้ถ่ายทอดผ่านนิทรรศการที่ได้จัดแสดงในงาน ดังนี้
- J – (Journey of justice) เส้นทางสู่ความยุติธรรม เป็นการยกระดับการให้ความช่วยเหลือประชาชน
โดยการพัฒนา “การให้ความช่วยเหลือ” ผ่านการทบทวนและปรับปรุง ระเบียบ แนวทาง หลักเกณฑ์ มาตรฐานการดำเนินงาน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ง่ายขึ้น มากขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้น - F – (Fairness for All) ความเป็นธรรมสำหรับทุกคน ในการยกระดับการให้บริการครบวงจร
โดยพัฒนา“ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล” ที่ใช้ AI เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการให้บริการประชาชนผ่านระบบ MSCL (MOJ Smart Complain and Legal consult) ที่เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลออนไลน์แบบครบวงจร (One-stop service) ให้ประชาชนทั่วไป และประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้พิการด้านสายตา การได้ยิน และผู้สูงอายุ สามารถยื่นคำขอรับคำปรึกษา ติดตามสถานะได้ในระบบเดียว เพื่อความรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง - O – (Opportunity for Justice) สร้างโอกาสสู่ความเป็นธรรม เป็นการยกระดับการปฏิบัติงานเชิงรุก นำความยุติธรรมเข้าถึงประชาชน โดยการพัฒนา “ด้านบุคลากร” ด้วยการเพิ่มอัตรากำลังและการพัฒนาทักษะดิจิทัล กฎหมายใหม่ ๆ เพื่อให้บุคลากรทันต่อการเปลี่ยนแปลง การสร้างความเชี่ยวชาญ/ความก้าวหน้าในสายอาชีพ เพื่อให้บุคลากรมีศักยภาพสูงในการให้บริการประชาชน และ “ด้านการประชาสัมพันธ์” ที่จะขยายการสื่อสารเชิงรุกสู่ชุมชน สร้างการตระหนักรู้ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เพื่อเข้าถึงงานบริการอย่างทั่วถึง โดยเน้นการสื่อสารแบบเล่าเรื่อง (story telling) การสื่อสารแบบกลยุทธ์ เพื่อให้ประชาชาชน “รู้เร็ว เข้าถึง และทันเวลา”
กองทุนยุติธรรม ยังคงมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานของกองทุนยุติธรรม เพื่อสร้างหลักประกันว่าประชาชนทุกคนจะสามารถเข้าถึงเส้นทางแห่งความยุติธรรม และได้รับโอกาสสู่ความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค นำความยุติธรรมเชิงรุกเข้าถึงทุกเสียงความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้เข้าถึงบริการงานยุติธรรมได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม

ทั้งหมดนี้ สะท้อนแนวคิดสำคัญที่กระทรวงยุติธรรมมุ่งมั่นขับเคลื่อนตามนโยบายอย่างเข้มแข็งจริงจัง คือ “กระบวนการยุติธรรม ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ซึ่งไม่ใช่เพียงในเชิงนโยบาย แต่เป็นการลงมือทำจริง ปฏิบัติจริง ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน สมดั่งคำที่ว่า “กองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเคียงข้างประชาชน”

