GISTDA ผนึก กระทรวงเกษตรฯ เปิด Dashboard อัจฉริยะชี้ทางรอดภาคเกษตรไทยสู้วิกฤตภูมิอากาศ

3 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เปิดตัว “ระบบ Dashboard ภายใต้โครงการ AIP for Climate Resilient Agriculture” เครื่องมือดิจิทัลเพื่อยกระดับการบริหารจัดการภาคเกษตรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ ณ ห้องประชุมอัศวิน แกรนด์ C โรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายกฤษ อุตดมะเวทิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานพันธมิตร สื่อมวลชน และผู้แทนจากภาครัฐ – เอกชนกว่า 250 คน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง

นายกฤษ รองปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวในพิธีเปิดว่า ภาคเกษตรกรรมไทยเป็นหนึ่งในภาคส่วน ที่เผชิญผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด ทั้งภัยแล้ง อุทกภัยและความแปรปรวน ของฤดูกาล การมีเครื่องมือที่สามารถเชื่อมโยง วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจากหลายมิติได้อย่างมี ประสิทธิภาพจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ภาครัฐสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงและวางแผนนโยบาย ได้อย่างแม่นย่าและทันท่วงที ซึ่งโครงการ AIP Dashboard ที่พัฒนา โดย GISTDA ร่วมกับหน่วยงาน พันธมิตร อาทิ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมการข้าว กรม ชลประทาน กรมการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์วิจัย การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศระดับ ภูมิภาคและพลังงานทดแทน (RU-CORE) ถือเป็น “เครื่องมือเชิง ยุทธศาสตร์ด้านเกษตรและภูมิอากาศ” ที่บูรณาการข้อมูลภูมิสารสนเทศกับข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) จากหลายหน่วยงาน เพื่อสนับสนุน การตัดสินใจเชิงนโยบายและการบริหารจัดการทรัพยากร ในระดับประเทศอย่างเป็นระบบ

ด้าน นางกานดาศรี ลิมปาคม รองผู้อ่านวยการ GISTDA เปิดเผยว่า ระบบ “AIP for Climate Resilient Agriculture” ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การบริหารจัดการภาคเกษตร อย่างรอบด้าน ครอบคลุม 3 มิติสำคัญ ได้แก่ 1.) การบริหารจัดการระยะสั้น (Short-term Management) ระบบติดตาม และพยากรณ์สถานการณ์น้ำท่วม-ภัยแล้งแบบ Near-real time ช่วย ให้หน่วยงานท้องถิ่นเห็นพื้นที่เสี่ยง บนแผนที่ เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมรับมือได้อย่างทันท่วงที (2.) การปรับตัวระยะยาว (Long-term Adaptation) วิเคราะห์ฉากทัศน์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในอนาคด 10 – 20 ปี เพื่อให้ผู้กำหนดนโยบาย สามารถทดสอบและเลือกแนวทางการพัฒนาเกษตรที่ เหมาะสมที่สุด และ 3.) การลดก๊าซเรือนกระจก (Climate Change Mitigation) มุ่งเน้นการจัดการ “ก๊าซมีเทนในนาข้าว” ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยสำคัญ โดยระบบสามารถจําลองปริมาณก๊าซที่ลดลงจาก การปรับเปลี่ยนวิธีเพาะปลูก เช่น การท่านาแบบเปียก สลับแห้ง เพื่อขับเคลื่อนเกษตรคาร์บอนด่า อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งหมดนี้ถูกน่าเสนอผ่าน Dashboard แบบอินเทอร์แอคทีฟ (Interactive Dashboard) ที่แสดงผล ข้อมูลในรูปแบบแผนที่ ภาพกราฟ และรายงานวิเคราะห์ เพื่อให้หน่วยงานและผู้บริหาร สามารถเข้าถึง ข้อมูลได้ง่าย ตัดสินใจได้เร็ว และวางแผนอย่างแม่นยำ โครงการดังกล่าวนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการใช้ เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสานสนเทศ เพื่อสร้าง ”ความมั่นคงทางเกษตรกรรมไทย” ให้พร้อมรับมือกับ ความท้าทายจากสภาพภูมิอากศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รองผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *