หลังจากที่ผ่านด่านการคัดเลือกเป็นรอบๆ จากผลงานเกือบ 300 พล็อต คัดเหลือ 50 และ 23 พล็อต ในที่สุดก็มาถึงการประกาศรางวัลพล็อตนวนิยาย “ดอกหญ้า ท้าให้เขียน” ยกที่ 1 เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 ณ อาคารฤทธิ์รัตน ย่านรามคำแหง หัวหมาก ท่ามกลางนักเขียนทั้งหน้าใหม่และเก๋าเวทีร่วมลุ้นรางวัล พร้อมผู้สนใจร่วมงาน
สำหรับผลรางวัล โครงการดอกหญ้าท้าให้เขียน ยกที่ 1 ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ, รองอันดับ 1 และรองอันดับ 2 พร้อมรางวัลชมเชยอีก 19 พล็อต (สละสิทธิ์ 1 ท่าน) รวม 22 รางวัล ดังนี้
รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “Save as… My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดย ธรากร
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” โดย ทอม สิริ
รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ พล็อตนวนิยายเรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา
รางวัลชมเชย เรียงลำดับตามตัวอักษรชื่อพล็อต ดังนี้
1.พล็อตนวนิยายเรื่อง กลิ่นอาญา โดย นิศากาล
2. พล็อตนวนิยายเรื่อง คำสาปหมู่บ้านลับแล โดย Fuurin Nova
3. พล็อตนวนิยายเรื่อง ฉันจะฆ่าเธอให้ตายในนิยายทุกเรื่องของฉัน โดย สีพรำ
4. พล็อตนวนิยายเรื่อง ดยุกผิวเผือก โดย ไปรษณีย์
5. พล็อตนวนิยายเรื่อง นพนิรันดร์ โดย Vanดาเรีย
6. พล็อตนวนิยายเรื่อง นักเดินทางระหว่างโลกต่างมิติ โดย จุ๊บจอย
7. พล็อตนวนิยายเรื่อง แฝง โดย กัลย์ณิศา
8. พล็อตนวนิยายเรื่อง พันธะรักซ่อนบาป โดย กนิษฐรินทร์
9. พล็อตนวนิยายเรื่อง เพรงปริศนา โดย สุกรม
10. พล็อตนวนิยายเรื่อง ม่านสายหมอก โดย พันภพ
11. พล็อตนวนิยายเรื่อง เรือนอารมณ์ โดย ณัฐพงศ์
12. พล็อตนวนิยายเรื่อง อคาทัส นครใต้อนธการ โดย รตินธร์
13. พล็อตนวนิยายเรื่อง Detective me ! ฉันนี่แหละนักสืบตัวจริง โดย เมฆคราม
14. พล็อตนวนิยายเรื่อง Entangled Destiny คุณผี หยุดสิงผมทีเถอะ! โดย ทิวลิปสีน้ำเงิน
15. พล็อตนวนิยายเรื่อง Honorable Memories โดย BBB-Butterfly
16. พล็อตนวนิยายเรื่อง Lean by Heart รักสุดลีน ปีนบันไดฝัน โดย Meenacreator
17. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Color of Sound เพียงจันทร์พบตะวัน โดย เจ้าจันทร์
18. พล็อตนวนิยายเรื่อง The Parkinhaunt โดย ยาหยี นารีลักษณ์
19. พล็อตนวนิยายเรื่อง Venus on the Shore โดย Hermann O’Brien
ธรากร รางวัลชนะเลิศ และ ทอม สิริ รางวัลรองชนะเลิศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการ ได้แก่ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย นักวิจารณ์, นักเขียน, อาจารย์พิเศษด้านวรรณกรรม เป็นประธานการตัดสิน ร่วมกับ กรรมการอีก 2 ท่าน นายนิพนธ์ เที่ยงธรรม นักเขียนนวนิยาย นามปากกา จุฬามณี, เฟื่องนคร, ชอนตะวัน และนางสาวนันทพร ไวศยะสุวรรณ์ บรรณาธิการและผู้อำนวยการโครงการประกวดดอกหญ้าเฉพาะกิจ ได้ลงมติร่วมกัน พร้อมทั้งประกาศยกย่องผลงานทั้ง 3 เรื่อง ดังนี้
พล็อตนวนิยายรางวัลชนะเลิศ “Save As…My Life สำเนาชีวิต ลิขิตมรณะ” โดยนักเขียน “ธรากร” ว่า เป็นพล็อตนวนิยาย แฟนตาซีแนวตั้งคำถามกับชีวิต และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ถ้าเราย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้ เราจะทำหรือไม่ และโลกนี้จะเป็นอย่างไร หากใคร ๆ ก็สามารถ Save As ชีวิตใหม่ได้
‘ธรากร’ นำเสนอพล็อตที่มีความร่วมสมัย มีแก่นของเรื่อง (theme) ที่ชัดเจนให้ผู้อ่านได้ขบคิดตาม ผ่านการดำเนินเรื่องในแบบสืบสวนสอบสวนที่สร้างความอยากรู้ กระตุ้นให้ผู้อ่านติดตามหาคำตอบของปริศนาในเรื่อง ด้วยภาษาในการเขียนพล็อตที่สละสลวย กระชับ ให้รายละเอียดได้อย่างครบถ้วนและแจ่มชัด
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เรื่อง ๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต โดย ทอม สิริ คณะกรรมการมีความเห็นว่า “๒๕๐๑ เงื่อนเวลาเงาอดีต” นวนิยายสืบสวนสอบสวน ซึ่งผูกโยงเรื่องราวเข้ากับประวัติศาสตร์บางหน้าของวงการบันเทิง ในยุคที่ มิตร ชัยบัญชา ยังเป็นพระเอกอันดับ 1 ของเมืองไทย การสืบหาความจริงของคดีฆาตกรรม โดยปราศจากเทคโนโลยีตามหาตัวผู้ก่อเหตุแบบในปัจจุบัน ทุกขณะมีอันตรายให้ต้องระวัง และมีเหตุการณ์ชวนลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง
‘ทอม สิริ’ นำเสนอพล็อตได้อย่างน่าติดตาม เต็มไปด้วยสีสันของตัวละคร ฉาก และพฤติกรรมอันสะท้อนธาตุแท้แห่งความเป็นคน กิเลส และการห้ำหั่นเฉือดเฉือน ท่ามกลางบรรยากาศของโลกมายา
สำหรับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง “เรียกข้าว่าเสาหลักของทุนนิยม” โดย กิตติศักดิ์ คงคา คณะกรรมการมีความเห็นว่า เป็นนวนิยายไซไฟที่พาผู้อ่านเดินทางสู่พหุจักรวาล (Multiverse) ซึ่งผู้คน สถานที่ และ เหตุการณ์ต่าง ๆ ผิดแผกไปจากโลกที่เราอยู่ เรื่องราวของการซ้อนทับ และผลเกี่ยวเนื่องจากการกระทำต่าง ๆ ซึ่งสะท้อนว่า ทุกสิ่งที่เราทำอาจส่งผลกระทบมากกว่าที่เราคิด
(จากซ้าย)นันทพร ไวศยะสุวรรณ์, จรูญพร ปรปักษ์ประลัย ,ธรากร ,ทอม สิริ และนิพนธ์ เที่ยงธรรม
กิตติศักดิ์ คงคา นำเสนอพล็อตที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและเงื่อนไขมากมาย หากด้วยการลำดับเรื่องอย่างสอดคล้อง เป็นเหตุเป็นผล เรื่องราวจึงไม่ยากเกินความเข้าใจ อีกทั้งยังมีจุดเปลี่ยนของเรื่องที่เหนือความคาดหมาย สนุก และน่าติดตามอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ นายจรูญพร ปรปักษ์ประลัย ประธานการตัดสิน ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงภาพรวมการประกวดครั้งนี้ว่า
“ถ้าพูดถึงพล็อต ผมว่าพล็อตเป็นเหมือนต้นกล้า ไอเดียเริ่มต้นเป็นเมล็ดพันธุ์ จากเมล็ดพันธุ์บ่มเพาะขึ้นมาเป็นต้นกล้า ต้นไม้จะเติบใหญ่งดงามหรือไม่ สำคัญที่จุดนี้ ทางดอกหญ้าจึงได้เปิดเวทีให้นักเขียนทั้งเก่าและใหม่มาประชันพล็อตกัน
“แรก ๆ ก็ลุ้นกันว่า งานที่ส่งเข้ามาจะเป็นอย่างไร จนเมื่อได้เห็นงาน ต้องบอกเลยว่า ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น ทั้งกับปริมาณและคุณภาพ
“พล็อตจำนวนมากมีความสดใหม่ ไม่วนเวียนอยู่กับเรื่องเดิม ๆ อีกต่อไป อาจเพราะทุกวันนี้โลกเปิดกว้าง มีสื่อจากทั่วโลกให้คนไทยได้เสพ ได้อ่าน ได้ดูกัน เราจึงมีโอกาสได้ศึกษาเรียนรู้ จนคิดอะไรไปไกลชนิดไม่น้อยหน้าชาติใดในโลก
“นอกจากความสดใหม่ พล็อตยังเต็มไปด้วยความหลากหลาย มีทั้งไซไฟ แฟนตาซี อิงประวัติศาสตร์ เรื่องแนววาย ฆาตกรรม สืบสวนสอบสวน ตลก รัก เสียดสี แอ๊คชันมีหมด สะท้อนว่านักเขียนเรามีความสนใจที่กว้างมากขึ้น แต่ละคนยังมีความมั่นใจ กล้านำเสนอเรื่องราวตามแนวทางของตัวเองอย่างชัดเจน
“สุดท้ายคงเป็นเรื่องของศิลปะการเล่าเรื่อง ที่ต้องบอกว่า ชั้นเชิงของหลายคนนี่สุดยอดจริง ๆ เขียนได้น่าติดตาม หักมุมแล้วหักมุมอีก มีอะไรแปลก ๆ ให้เซอร์ไพรซ์ได้ตลอด”
ทั้งนี้นายจรูญพร ยังกล่าวด้วยว่า การประกวดพล็อตในครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญ ทำให้เชื่อมั่นว่า วรรณกรรมไทยจะไม่มีวันตาย ตรงกันข้าม จะยิ่งเติบโตด้วยพัฒนาการที่รุดหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของนักเขียนรุ่นใหม่