กรมกิจการเด็กและเยาวชน ภายใต้สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประกาศความสำเร็จจากความร่วมมือกับ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน (Care for Children) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสวัสดิการและการพัฒนาเด็กจากประเทศอังกฤษ เพื่อประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้เกิดระบบอุปถัมภ์เด็กอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นในประเทศไทย
พันธกิจของกรมกิจการเด็กและเยาวชนคือการสนับสนุนและเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีรอบด้าน ความปลอดภัย และความมั่นคงทางสังคมแก่เด็กและเยาวชนในประเทศไทย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนที่จำเป็นแก่เด็กและครอบครัวที่ต้องการความช่วยเหลือ และตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555 เป็นต้นมากรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ร่วมงานกับ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน เพื่อคัดเลือกพ่อแม่อุปถัมภ์ที่ยินดีมอบการดูแลทางเลือกแก่เด็กที่ต้องอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์เด็กและบ้านพักเด็กในกำกับของรัฐบาลไทย
โครงการแรกของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน เริ่มต้นที่ประเทศจีนเมื่อปี พ.ศ. 2541 และขยายการดำเนินงานสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ. 2555 เวียดนามในปี พ.ศ. 2560 และล่าสุดในกัมพูชาเมื่อปี พ.ศ. 2564 โดยมีแผนการระยะยาวในการขยายขอบข่ายครอบคลุมเด็กและครอบครัวทั่วโลก ทีมงานของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ที่ดูแลโครงการในแต่ละประเทศจะทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐโดยตรง เพื่อสร้างและส่งมอบโปรแกรมฝึกอบรมที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อประเทศนั้น ๆ และมุ่งเน้นให้เกิดผลอย่างทันทีในระดับแนวหน้า นั่นก็คือการนำเด็กไปสู่ครอบครัวในท้องถิ่นที่พร้อมจะมอบความรักและการดูแลที่เหมาะสม โครงการในแต่ประเทศยังแบ่งกระบวนการพัฒนาออกเป็นสี่ขั้น โดยมีเป้าหมายปลายทางคือการสร้างโครงการอุปถัมภ์ในระดับประเทศ ให้บ้านพักพิงเด็กกลายมาเป็นศูนย์กลางแหล่งทรัพยากรใหม่ที่มีพลวัตสูงของชุมชน และมีการเข้าถึงแหล่งข้อมูลและเนื้อหาการฝึกอบรมที่ออกแบบมาอย่างเฉพาะเจาะจงโดย แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน
ตั้งแต่เริ่มโครงการในประเทศไทยเมื่อสิบปีที่แล้ว แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ได้ทำการฝึกอบรมให้กับทุกสถานสงเคราะห์และบ้านพักเด็กในกำกับของรัฐที่มีอยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทย มีการฝึกเจ้าหน้าที่จัดหาครอบครัวอุปถัมภ์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับระบบการดูแลเด็กกำพร้าและเด็กกลุ่มเปราะบางที่อยู่ในความคุ้มครองของรัฐ โดยเป้าหมายหลักตามขั้นตอนการพัฒนาในปัจจุบันในประเทศไทยคือการสร้างการรับรู้ถึงระบบการอุปถัมภ์เด็กในวงกว้าง และเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจและมีความพร้อมสมัครเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์มากขึ้น
“จากการศึกษาวิจัยและประสบการณ์ในการดำเนินงานของเรา เรารู้ว่าเด็กจะเติบโตได้ดีกว่าในครอบครัว” โรเบิร์ต โกลเวอร์ ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารของ แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน กล่าว “สถานสงเคราะห์ขนาดใหญ่เป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อพัฒนาการของเด็ก เจ้าหน้าที่มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดเวลาทำให้ไม่สามารถมอบความอบอุ่น ความเข้าใจ และความรักแก่เด็ก ๆ ได้ดีนัก แต่ถ้าเด็กได้มีโอกาสเติบโตในครอบครัว พอแม่อุปถัมภ์จะสามารถให้การดูแลอย่างใกล้ชิดได้ตลอดเวลา เด็ก ๆ ต้องการพ่อแม่ และความรักจากครอบครัว”
แคร์ ฟอร์ ชิลเดรน ผลักดันให้เกิดแผนการดูแลเด็กอย่างถาวร และการอุปถัมภ์เด็กในระยะยาวสามารถมอบโอกาสในการเติบโตในสภาพแวดล้อมแบบครอบครัวที่มีความมั่นคงและความรักความอบอุ่นแก่เด็ก ในขณะที่เด็กยังอยู่ภายใต้การดูแลคุ้มครองของรัฐตามกฎหมาย และในด้านการเงินและการสนับสนุนอื่น ๆ การดูแลระยะสั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบการอุปถัมภ์เด็กในประเทศไทย บ้านพักพิงและสถานสงเคราะห์ในยามฉุกเฉินอาจมอบการสนับสนุนในระดับพื้นฐานแก่เด็ก ๆ ได้ แต่ครอบครัวอุปถัมภ์สามารถเติมเต็มได้มากกว่าด้วยความรัก การอบรมสั่งสอน และการดูแลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมอย่างที่เด็กต้องการท่ามกลางบรรยากาศของครอบครัวที่มีความรักความอบอุ่น การอุปถัมภ์สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเด็ก ๆ และช่วยเตรียมพร้อมให้เด็กสามารถกลับคืนสู่การดูแลของพ่อแม่ที่แท้จริง หรือให้สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต และในขณะเดียวกันก็มอบโอกาสให้พ่อแม่อุปถัมภ์ได้สร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคมผ่านกระบวนการที่มีพันธะผูกพันและค่าใช้จ่ายน้อย แต่สร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล
เด็กหลายร้อยคนทั่วประเทศไทยได้รับการดูแลด้วยความรักและเอาใจใส่ในครอบครัวในท้องถิ่นแล้ว แต่ยังมีเด็กอีกหลายพันคนที่กำลังรอคอยโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่มีความสุข สนใจทราบรายละเอียดในการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ หรือสมัครเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อ:
กรุงเทพมหานคร
• สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี – โทร. 02 354 7483
• สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ – โทร 02 286 2013
• บ้านพักเด็กและครอบครัวทุกแห่งในกรุงเทพฯ – โทร 02 354 7580
ภูมิภาค
• สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
• สถานรองรับเด็ก 33 แห่ง
• บ้านพักเด็กและครอบครัว 76 แห่งทั่วประเทศ